ผลของการฝึกบันไดลิงแบบหนักสลับเบาที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวในนักกีฬาฟุตซอลหญิง กรณีศึกษา: มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย

ผู้แต่ง

  • ตรีเทพ ประจันตเสน มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตสุโขทัย
  • ภูฟ้า เสวกพันธ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

คำสำคัญ:

การฝึกบันไดลิง, หนักสลับเบา, ความคล่องแคล่วว่องไว, นักกีฬาฟุตซอลหญิง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกบันไดลิงแบบหนักสลับเบา ที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวในนักกีฬาฟุตซอลหญิง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักกีฬาฟุตซอลหญิง มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย จำนวน 20 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุมทำการฝึกฟุตซอลโปรแกรมปกติ และกลุ่มทดลองทำการฝึกฟุตซอลโปรแกรมปกติ ร่วมกับฝึกวิ่งเคลื่อนที่ด้วยบันไดลิงแบบหนักสลับเบาที่ความหนัก 90-95 เปอร์เซ็นต์ของชีพจรสูงสุด โดยมีท่าทั้งหมดจำนวน 10 ท่า ท่าละ 15 วินาที ระยะเวลาในการพัก 15 วินาที ท่าละ 2 เที่ยว รวมทั้งหมด 20 เที่ยว ต่อ 1 วัน และทำการฝึก 2 วันต่อสัปดาห์ ในวันจันทร์และพฤหัสบดี เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ทำการทดสอบ ความคล่องแคล่วว่องไวด้วยแบบทดสอบ SEMO test และ FAF’s Slalom test วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Dependent sample t-test และ Independent sample t-test ผลการวิจัย พบว่าภายหลังการฝึก 8 สัปดาห์ กลุ่มทดลองมีความคล่องแคล่วว่องไวดีขึ้นจากก่อนการฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนกลุ่มควบคุมไม่พบความแตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม ภายหลังการฝึกในสัปดาห์ที่ 8 พบว่า กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีความคล่องแคล่วว่องไวแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงสรุปได้ว่า การฝึกการเคลื่อนที่ด้วยบันไดลิง สามารถช่วยพัฒนาความคล่องแคล่วว่องไว และความสัมพันธ์ของระบบประสาทและกล้ามเนื้อในนักกีฬาฟุตซอลได้

เอกสารอ้างอิง

ถาวร กมุทศรี. (2560). การเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย. วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล.

ทศพล ชวนบุญ. (2558). ผลของการฝึกวิ่งแบบหนักสลับเบาที่ความหนักระดับสูงที่มีต่อสมรรถภาพแอโรบิกและแอนแอโรบิก

ในนักกีฬาฟุตบอล [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ทิสยา ทิศเสถียร. (15 ตุลาคม 2564). บันไดลิงอัจฉริยะ Smart Ladder for Agility. สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. https://www3.rdi.ku.ac.th/?p=61359

ธนากาญจน์ เสถียรพูนสุข. (2564). การพัฒนาแบบทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวบนพื้นทรายสำหรับนักกีฬาแฮนด์บอลชายหาด. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 47(2), 340-352.

มัชฌิมา ยาวิไชย. (2558). ผลของการฝึกความคล่องแคล่วและพลังของกล้ามเนื้อต่อความเร็วของการวิ่งในนักกรีฑา: การศึกษานำร่อง [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

สุรชัย แซ่ด่าน. (2560). ผลการฝึกโดยใช้ตารางเก้าช่องและบันไดลิงที่มีต่อความคล่องตัวในกีฬากาบัดดี้ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยทักษิณ.

อำนาจ ธูปบูชา และ สมเกียรติ เนตรประเสริฐ. (2558). ผลการฝึกเสริมด้วยโปรแกรมการฝึกความคล่องแคล่วว่องไวที่มีต่อความสามารถ

ในการเลี้ยงลูกฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอลชาย อายุ 16-18 ปี. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ, 5(8). 131-142.

Makaje, N., Ruangthai, R., Arkarapanthu, A., & Yoopat, P. (2012). Physiological demands and activity profiles during futsal match play according to competitive level. Journal of Sports Medicine and Physical Fitness, 52(4), 366-374.

หน้าปก1

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-23

รูปแบบการอ้างอิง

ประจันตเสน ต., & เสวกพันธ์ ภ. (2025). ผลของการฝึกบันไดลิงแบบหนักสลับเบาที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวในนักกีฬาฟุตซอลหญิง กรณีศึกษา: มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย. วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม, 35(2), 1–7. สืบค้น จาก https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/scicru/article/view/3180

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย