แบบจำลองอัตราการไหลสูงสุดสำหรับการผลิตผ้าเบรกรถยนต์
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้แบบจำลองข้อมูลการไหลในข่ายงานมาจำลองเส้นทางการผลิตและหาอัตราการไหลสูงสุดของกระบวนการผลิตผ้าเบรกทั้งระบบ บริษัทกรณีศึกษาเป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายผ้าเบรกสำหรับรถยนต์ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีจำนวนรุ่นผ้าเบรกมากกว่า 400 รุ่น มีกระบวนการผลิตหลักๆ 20 กระบวนการและมีเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต 46 เครื่อง อย่างไรก็ตามทุกๆ ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการผลิตในทุกกระบวนการทำให้มีรูปแบบในการผลิตมากถึง 14 รูปแบบ ซึ่งยากต่อการวางแผนการผลิตและการวิเคราะห์กำลังการผลิตของระบบ ส่งผลให้เกิดการใช้เครื่องจักรที่ไม่เต็มประสิทธิภาพสูญเสียโอกาสในการผลิต รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของแผนการเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคตที่อาจสูงมากขึ้น วิธีการวิจัยเริ่มจากการศึกษาและเก็บข้อมูลของบริษัท จากนั้นใช้การวิเคราะห์แบบเอบีซีมาเลือกตัวแทนผลิตภัณฑ์เพื่อเก็บข้อมูล และประยุกต์ใช้ขั้นตอนวิธีเลเบลและวิธีขยายในการหาอัตราการไหลสูงสุด โดยแทนเครื่องจักรด้วยเส้นเชื่อมและแทนกระบวนการผลิตในแต่ละกระบวนการด้วยโหนดตั้งแต่กระบวนการผลิตแรกไปจนถึงกระบวนการสุดท้าย ตามลำดับ ผลการวิจัยพบว่า บริษัทสามารถผลิตผ้าเบรกได้สูงสุด 25,880 ชิ้นต่อวัน และเมื่อทำการเปรียบเทียบกับยอดการผลิตจริงเฉลี่ยต่อวันแล้วพบว่า บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อีก 1,375 ชิ้นต่อวันหรือคิดเป็น 5.6 % รวมไปถึงทราบอัตราการใช้งานเครื่องจักรในแต่ละกระบวนการอีกด้วย แบบจำลองนี้ช่วยให้บริษัทวิเคราะห์กำลังการผลิตของระบบได้อย่างแม่นยำและใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการผลิต การเพิ่มกำลังการผลิต และแผนการบำรุงรักษาเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแต่ละกระบวนการผลิตได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในJournal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Journal of Advanced Development in Engineering and Science หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Advanced Development in Engineering and Scienceก่อนเท่านั้น