การผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดจากใบตะไคร้และฟางข้าว
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดจากใบตะไคร้ร่วมกับฟางข้าวจำนวน 3 สัดส่วน ได้แก่ ใบตะไคร้ 100% , ใบตะไคร้ 50% ผสมฟางข้าว 50% และ ฟางข้าว 100% โดยน้ำหนัก พร้อมทั้งวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและทางกล กระบวนการผลิตใช้กาว pMDI เป็นตัวประสานในปริมาณ 7% โดยน้ำหนักของวัสดุแห้ง ซึ่งทำการอัดร้อนด้วยเครื่องอัดไฮโดรลิกที่ความดัน 147 bar อุณหภูมิ 120°C เป็นเวลา 5 นาที ภายใต้การควบคุมให้แผ่นมีความหนาแน่นอยู่ในช่วง 400-900 kg/m3 และมีขนาด 450 mm × 450 mm × 10 mm เพื่ออธิบายลักษณะของแผ่นชิ้นไม้อัดที่ได้จึงทำการวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพ (ความหนาแน่น ความชื้น การดูดซึมน้ำ และการพองตัวตามความหนา) และสมบัติทางกล (ความต้านทานแรงดัดและโมดูลัสความยืดหยุ่น) เปรียบเทียบกับมาตรฐาน มอก. 876-2547 ผลการวิจัยพบว่า แผ่นชิ้นไม้อัดที่ได้ไม่มีกลิ่นหรือสีของการไหม้ ผิวของแผ่นเนียนเรียบ ไม่มีการกระจุกตัวของวัสดุ ไม่มีการโก่งตัวหรือบิดงอ ผลการวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพของแผ่นเทียบกับมาตรฐาน พบว่า สมบัติทางกายภาพ ได้แก่ ความหนาแน่น ความชื้น การดูดซึมน้ำ และการพองตัวตามความหนา มีค่าผ่านเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดทุกสัดส่วน และผลการวิเคราะห์สมบัติทางกล ได้แก่ ความต้านแรงดัดและโมดูลัสความยืดหยุ่น มีค่าผ่านเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดทุกสัดส่วน ยกเว้นสัดส่วนที่ขึ้นรูปด้วยฟางข้าว 100% พบว่ามีค่าโมดูลัสความยืดหยุ่นเฉลี่ยไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นจากผลการวิจัยจึงบ่งชี้ได้ว่าใบตะไคร้และใบตะไคร้ผสมฟางข้าวสามารถเป็นทางเลือกของวัสดุในการผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดในเชิงอุตสาหกรรมได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในJournal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Journal of Advanced Development in Engineering and Science หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Advanced Development in Engineering and Scienceก่อนเท่านั้น