การเพิ่มประสิทธิภาพการชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่ในข้าวสายพันธุ์ไทย (ปทุมธานี1) โดยการประยุกต์ใช้วัสดุนาโนคาร์บอน
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในงานวิจัยนี้ได้ทำการทดสอบการประยุกต์ใช้วัสดุนาโน เพื่อการชักนำให้เกิดเซลล์แคลลัสและการเกิดเป็นต้นใหม่ในสภาวะหลอดทดลองจากชิ้นส่วนเมล็ดของข้าวสายพันธุ์ไทย (ปทุมธานี1) โดยใช้เทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่มีการเติมวัสดุนาโน การชักนำให้เกิดเซลล์แคลลัสเริ่มต้นและถูกสร้างจากเมล็ดข้าว ชิ้นส่วนดังกล่าวนำไปเพาะเลี้ยงในอาหาร NB ที่มีการเติม 2,4-D ที่ความเข้มข้นต่างๆ (1-5 มิลลิกรัมต่อลิตร) จุดสีเขียว และการชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่จะถูกชักนำโดยใช้อาหาร NB ที่มีการเติม BA ที่ความเข้มข้นต่างๆ (1-5 มิลลิกรัมต่อลิตร) ในความเข้มข้นที่เหมาะสมของ 2,4-D (3 มิลลิกรัมต่อลิตร) และ BA (3 มิลลิกรัมต่อลิตร) จะแสดงผลการชักนำให้เกิดเซลล์แคลลัสและการชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่ที่สูง ตามลำดับ นอกจากนี้อาหาร NB ที่มีการเติม 2,4-D ความเข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับการชักนำให้เกิดเซลล์แคลลัส และ BA ความเข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับการชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่ และการเติมวัสดุนาโนคาร์บอนที่ความเข้มข้นต่างๆ (0-80 มิลลิกรัมต่อลิตร) พบว่าประสบความสำเร็จในการชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การเกิดจุดสีเขียวอยู่ที่ 85.56-94.44% การชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่อยู่ที่ 37.78-57.78% และอัตราส่วนของการเกิดเป็นต้นใหม่ต่อแคลลัสอยู่ที่ 2.06-2.31 โดยที่เปอร์เซ็นต์การเกิดจุดสีเขียว (94.44%) การชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่ (57.78%) และอัตราส่วนของการเกิดเป็นต้นใหม่ต่อแคลลัส (2.31) พบสูงที่สุดในอาหาร NB ที่มีการเติม 2,4-D ความเข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับการชักนำให้เกิดเซลล์แคลลัส และ BA ความเข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร และการเติมวัสดุนาโนคาร์บอนความเข้มข้น 40 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับการชักนำให้เกิดเป็นต้นใหม่ ผลการทดลองที่ได้นั้นแสดงให้เห็นว่าวัสดุนาโนคาร์บอนสามารถที่จะใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์สำหรับข้าวสายพันธุ์ไทย (ปทุมธานี1) และประยุกต์ใช้กับพืชสายพันธุ์อื่น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในJournal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Journal of Advanced Development in Engineering and Science หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Advanced Development in Engineering and Scienceก่อนเท่านั้น