การเปรียบเทียบการลดลงของริปเปิ้ลกระแสในการมอดูเลตความกว้างพัลส์ต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง แบบสเปซเวกเตอร์ สำหรับอินเวอร์เตอร์ 2 เฟส 3 กิ่งจ่ายแรงดันให้กับ มอเตอร์เหนี่ยวนำ 2 เฟสแบบพารามิเตอร์ไม่สมมาตร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้นำเสนอการเปรียบเทียบริปเปิ้ลกระแสเอาต์พุตระหว่างเทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่องแบบสเปซเวกเตอร์สำหรับอินเวอร์เตอร์ 2 เฟส 3 กิ่งจ่ายแรงดันให้กับมอเตอร์เหนี่ยวนำ 2 เฟส แบบพารามิเตอร์ไม่สมมาตร ซึ่งมอเตอร์ 1 เฟสถูกดัดแปลงมาจากคาปาซิเตอร์สตาร์ทและรันมอเตอร์ที่มีพิกัดกำลัง 1 แรงม้า 4 ขั้ว แรงดันเฟส 220 โวลต์ กระแส 5.2 แอมป์ พิกัดความเร็วรอบ 1430 รอบต่อนาที เทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ที่นำเสนอนี้เน้นการเปรียบเทียบการลดลงของริปเปิ้ลกระแสที่ไหลเข้าขดลวดทั้ง 2 ของมอเตอร์ 2 เฟส ขณะปรับดัชนีการมอดูเลตสูงสุด โดยแบ่งเทคนิคนำเสนอออกเป็น 3 เทคนิค ได้แก่ เทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ต่อเนื่องแบบสเปซเวกเตอร์ (CSVPWM) และเทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ไม่ต่อเนื่องแบบสเปซเวกเตอร์รูปแบบที่ 1 (DSVPWM Type 1) และเทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ไม่ต่อเนื่องแบบสเปซเวกเตอร์รูปแบบที่ 2 (DSVPWM Type 2) โดยเทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ไม่ต่อเนื่องแบบสเปซ เวกเตอร์รูปแบบที่ 1 และ 2 นั้น กำหนดจากความแตกต่างของการคำนวณเวกเตอร์แรงดันศูนย์ในแต่ละเซ็กเตอร์ ทั้ง 6 เซ็กเตอร์ในระนาบ dq ผลการทดสอบแสดงรูปคลื่นแรงดันและและริปเปิ้ลกระแสที่ไหลเข้าขดลวดทั้ง 2 ของมอเตอร์ เพื่อยืนยันความถูกต้องของหลักการที่นำเสนอในแต่ละเทคนิค ซึ่งผลที่ได้จากการทดลองของเทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ไม่ต่อเนื่องแบบสเปซเวกเตอร์ทั้ง 2 มีริปเปิลกระแสต่ำกว่าแบบเทคนิคการมอดูเลตความกว้างพัลส์ต่อเนื่อง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ใน Journal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในJournal of Advanced Development in Engineering and Science ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Journal of Advanced Development in Engineering and Science หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Journal of Advanced Development in Engineering and Scienceก่อนเท่านั้น