ฤทธิ์ การยับยั้งลินทรีย์ของสารสกัดหยาบจากพืชสมุนไพรและเห็ดกินได้
คำสำคัญ:
สารสกัดหยาบพืชสมุนไพร, เห็ดกินได้การยับยั้งการเจริญบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการยับยั้งจุลินทรีย์ของสารสกัดหยาบจากพืชสมุนไพร จํานวน 11 ชนิด และเห็ดกินได้จํานวน 4 ชนิด โดยนําพืชสมุนไพรและเห็ดมาสกัดแบบแช่ยุ่ยในสารละลาย เมทานอล 99.99% จากนั้นระเหยตัวทําละลายด้วยเครื่องกลั่นระเหยแบบหมุนภายใต้สุญญากาศแล้วนํา สารสกัดหยาบที่ได้ไปทดสอบความสามารถในการยับยั้งจุลินทรีย์9 ชนิด ได้แก่ Staphylococcus aureus, S.epidermidis, Bacillus cereus, B.subtilis, Escherichia coli, Pseudomonasaeruginosa,P. fluorescens,VibrioparahaemolyticusและCandida albicansด้วยวิธี agar well diffusion ผลการวิจัย พบว่า สารสกัดหยาบจากกระชาย (Boesenbergia rotunda (Linn.) Mansf.) สามารถยับยั้ง B. cereus และ B. subtilisได้ดีที่สุด มีค่าเฉลี่ยเส้นผ่านศูนย์กลางของฤทธิ์ยับยั้งเท่ากับ 19.33±1.15 และ 19.67±5.03 มิลลิเมตร ตามลําดับ ส่วนสารสกัดหยาบจากข่า (Alpinia galanga (Linn.) Willd.) สามารถ ยับยั้ง S. aureus และ S. epidermidis ได้ดีที่สุด มีค่าเฉลี่ยเส้นผานศูนย์กลางของฤทธิ์ยับยั้งเท่ากับ 36.67±0.58 และ35.33±0.58 มลลิ ิเมตร ตามลําดับซึ่งมีผลการยับยั้งสงกว่าtetracycline (30 มลลิ ิกรัม/ มิลลลิตร) ที่มคี่าเฉลี่ยเส้นผ่านศูนย์กลางของฤทธิ์ยับยั้งเท่ากับ 28.00±3.46 และ 19.33±1.52 มลลิ ิเมตร ตามลําดับ นอกจากนี้สารสกัดหยาบจากข่ายังสามารถยับยั้งC. albicans ได้ดีที่สดุ มีค่าเฉลี่ยเส้นผ่าน ศูนย์กลางของฤทธิ์ยับยั้งเท่ากับ 20.00±0.00 มิลลิเมตรในขณะที่สารสกัดหยาบจากเห็ดฟาง (Volvariellavolvacea Fr.) สามารถยับยั้งS. aureus และ P. fluorescensได้ดีที่สุด มีค่าเฉลี่ยผ่าน ศูนย์กลางของฤทธิ์ยับยั้งเท่ากับ 15.67±1.53 และ15.00±1.00มิลลิเมตรตามลําดับ ส่วนสารสกัดหยาบจาก เห็ดนางนวล (Pleurotus djamor (Rumph. ex Fr.) Boedijn) สามารถยับยั้งC. albicans ได้ดีที่สุด มีค่าเฉลี่ย เส้นผ่านศูนย์กลางของฤทธิ์ยับยั้งเท่ากับ 11.33±0.58 มิลลิเมตร ดังนั้นผลการยับยั้งจุลินทรีย์ของสารสกัด หยาบจากพืชสมุนไพรและเห็ดกินได้ในการวิจัยนี้อาจใช้เป็นทางเลือกเพื่อทดแทนการใช้ยาเคมีต่อไปใน อนาคต
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2017 วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการ/บทความวิจัยที่ได้ตอบรับการตีพิมพ์ถือเป็นลัขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์