ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดและการจัดการความเครียดของวัยรุ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
บทคัดย่อ
การวิจัยพรรณนาเชิงความสัมพันธ์ (Descriptive correlational research) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียด และการจัดการความเครียดของวัยรุ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 333 คน ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage sampling) โดยเครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว มีค่าความเชื่อมั่นในแต่ละด้านระหว่าง 0.94-0.96 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วยสถิติไคสแควร์ ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 72.07 อายุเฉลี่ย 15±1.58 ปี ความเครียดของกลุ่มตัวอย่างโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง ส่วนการจัดการความเครียดอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียด พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลเพศ (x^2 = 10.011, p-value = 0.018) และรายได้ต่อเดือน (x^2 = 21.923, p-value = 0.038) ปัจจัยด้านสัมพันธภาพในครอบครัว (x^2 = 46.106, p-value < 0.001) ปัจจัยด้านการเรียน (x^2 = 22.765, p-value = 0.001) ปัจจัยด้านความรัก (x^2 = 28.808, p-value < 0.001) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (x^2 = 49.774, p-value < 0.001) ปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (x^2 = 52.768, p-value < 0.001) มีความสัมพันธ์กับความความเครียดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา การพักอาศัย สถานภาพของบิดามารดา ไม่มีความสัมพันธ์กับความเครียด ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าควรมีการเฝ้าระวังและติดตามระดับความเครียดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และส่งเสริมให้นักเรียนมีการจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาทางด้านร่างกาย จิตใจ และด้านต่างๆที่เกิดจากความเครียด
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการ/บทความวิจัยที่ได้ตอบรับการตีพิมพ์ถือเป็นลัขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
