ความสม่ำเสมอขององค์ประกอบทางเคมีของเถ้าชานอ้อยและการประยุกต์ใช้ในงานบล็อกประสาน

Authors

  • นิธิรัชต์ สงวนเดือน ภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 731400
  • กมล อมรฟ้า ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 731400
  • ปุณยวีร์ เดชครอง ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

Keywords:

Chemical composition, Bagasse ash, Interlocking block, Coefficient of variation, องค์ประกอบทางเคมี, เถ้าชานอ้อย, บล็อกประสาน, ค่าสัมประสิทธิ์ความแปรผัน

Abstract

          The objective of this research was to study the consistency of chemical composition of bagasse ash from a sugar factory in Tha Maka District, Kanchanaburi. Bagasse ash samples were collected from 3 production years. The results showed that the main composition of bagasse ash, SiO2, was between 67.00% and 73.20%, and the average was 71.54% with a standard deviation of 2.91.
A coefficient of variation was 4.06%. The essential composition of pozzolanic compounds (SiO2+Fe2O3+Al2O3) was found, between 80.94% and 85.13% with an average value of 84.70% with a standard deviation of 3.91 and a coefficient of variation was 4.61%, which was considered as a little variance. Therefore, the bagasse ash produced from the same factory with the same production model will be consistent even with changing a production cycle. When three samples of bagasse ash were selected from different production cycles and when they were used as cement replacement in the production of interlocking blocks, the ratio of cement to soil was 1:7 when the bagasse ash was replaced for the cement, in the proportion of 20 percent by weight, it was found that the interlocking blocks had similar strength at 7 and 28 days of age.

บทคัดย่อ

          วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาความสม่ำเสมอขององค์ประกอบทางเคมีของเถ้าชานอ้อย จากโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยทำการเก็บตัวอย่างเถ้าชานอ้อยสามรอบปีการผลิต ผลการศึกษาพบว่าองค์ประกอบหลักของเถ้าชานอ้อย คือ SiO2 มีปริมาณอยู่ระหว่างร้อยละ 67.00 ถึง 73.20 และมีค่าเฉลี่ย 71.54 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.91 และ ค่าสัมประสิทธิ์ความแปรผันร้อยละ 4.06 เมื่อพิจารณาถึงองค์ประกอบที่จำเป็นของสารปอซโซลาน (SiO2+Fe2O3+Al2O3) พบว่ามีปริมาณอยู่ระหว่างร้อยละ 80.94 ถึง 85.13 และมีค่าเฉลี่ย 84.70 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3.91 และ ค่าสัมประสิทธิ์ความแปรผันร้อยละ 4.61 ซึ่งนับว่ามีความแปรปรวนน้อยมาก ดังนั้นเถ้าชานอ้อยที่ผลิตจากโรงงานเดียวกัน มีรูปแบบการผลิตแบบเดียวกัน จะมีความสม่ำเสมอแม้เปลี่ยนรอบการผลิต เมื่อนำเถ้าชานอ้อยสามตัวอย่างจากรอบของการผลิตต่างกันไปใช้ในแทนที่ปูนซีเมนต์การผลิตบล็อกประสาน ในอัตราส่วนซีเมนต์ต่อดินลูกรัง เท่ากับ 1:7 เมื่อแทนที่ปูนซีเมนต์ด้วยเถ้าชานอ้อยในสัดส่วนร้อยละ 20 โดยน้ำหนัก ก็พบว่าบล็อกประสานมีค่าความแข็งแรงที่อายุ 7 วันและ 28 วันใกล้เคียงกัน

References

กฤษณ์ จารุทะวัย.(2545). การใช้เถ้าลอยเส้นปาล์มและเถ้าชานอ้อยแทนที่ซีเมนต์บางส่วน (วิทยานิพนธ์ปริญญาหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จิรวัฒน์ วิมุตติสุขวิริยา.(2564). การศึกษาคุณสมบัติคอนกรีตบล็อกชนิดไม่รับน้ำหนักผลิตจากหินฝุ่นบะซอลต์ผสมเถ้าชานอ้อย ในพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 10(1), 1-15.

บุรฉัตร ฉัตรวีระ และพงศกร พรมสวัสดิ์. (2552). ผลกระทบของการแทนที่เถ้าชานอ้อยในมวลรวมละเอียดต่อคุณสมบัติทางกลของปูนฉาบ.วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, 20(1), 59-68.

ปกป้อง รัตนชู, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, และชัย จาตุร พิทักษ์กุล.(2559). สมบัติทางกลของคอนกรีตกําลังสูงที่ใช้มวลรวมจากการย่อยเศษคอนกรีตเป็นส่วนผสมร่วมกับเถ้าชานอ้อยบดละเอียด. วารสารวิชาการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย, 4(2), 36-48.

ปวีณวัช ยอดดำเนิน และกมล อมรฟ้า. (2558). การประยุกต์ใช้เถ้าชานอ้อยในการผลิตบล็อกประสาน. การประชุมทางวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 20 (น. 215-MAT-1-8). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

พิพรรธน์ อินปลัด และสหลาภ หอมวุฒิวงศ์. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อกำลังรับแรงอัดของจีโอโพลิเมอร์คอนกรีตจากเถ้าชานอ้อยผสมเศษอะลูมิเนียม. วิศวกรรมสารมหาวิทยาลัยนเรศวร, 15(2), 67-74.

รัฐพล สมนา และชัย จาตุรพิทักษ์กุล. (2554). การใช้เถ้าชานอ้อยบดละเอียดเพื่อปรับปรุงกำลังอัด การซึมผ่านน้ำ และความต้านทานคลอไรด์ของคอนกรีตที่ใช้มวลรวมหยาบจากการย่อยเศษคอนกรีตเก่า. วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ. 34(4) 369-381.

วรรณา ต.แสงจันทร์, ปราณี จันทร์ลา, ศันสนีย์ รักไทยเจริญชีพ, และสุทธิมา ศรีประเสริฐสุข. (2557). การสังเคราะห์คอร์เดียไรต์จากเถ้าชานอ้อย. วารสารวิทยาศาสตร์ประยุกต์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ, 3(3) 9-14.

ศักดิ์ราวุธ ทองออน และเรืองรุชดิ์ ชีระโรจน์. (2562). ผลกระทบของอุณหภูมิที่สูงต่อการทนไฟของคอนกรีตผสมเถ้าชานอ้อยบดละเอียด. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 13(1) 32-42

ศิริชัย ก้านกิ่ง, ศิรินทร ทองแสง, ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ, ชาคริต สิริสิงห์ และเอกชัย วิมลมาลา. (2554). อิทธิพลของแหล่งชานอ้อยและปริมาณของซิลิกาในผงเถ้าชานอ้อยที่มีสมบัติการบ่มสุกและเชิงกลของวัสดุเชิงประกอบยางธรรมชาติ. การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 49 (น. 89-95). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สิรวิชญ์ สาสน์ธรรมบท, ณัฐพนธ์ พลพวก, กันตพงศ์ รอดบางยาง, กมล อมรฟ้า และ นิธิรัชต์ สงวนเดือน. (2563). คอนกรีตบล็อกประสานปูพื้นผสมเถ้าชานอ้อย. การประชุมทางวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 17 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน (น. 920-927). นครปฐม: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

สุทัศน์ จันบัวลา, มานะ เอี่ยมบัว, และพิทักษ์ เหล่ารัตนกุล. (2552). การพัฒนาผลิตภัณฑ์อิฐดินเผาจังหวัดสิงห์บุรี. วารสารวิจัย มสด สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 2(1), 15-24.

สุเมธ เตชะกุลวิโรจน์. (2546). การใช้เถ้าลอยชานอ้อยมาบำบัดน้ำเสียสีย้อมแล้วนำไปทำคอนกรีตบล็อก (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุริยัน พันพิพัฒน์, สิทธิศักดิ์ อันสนั่น, และเรืองรุชดิ์ ชีระโรจน์. (2565). การใช้เถ้าชานอ้อยบดละเอียดในงานคอนกรีตบดอัด. วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, 33(4), 77-87.

สุวิมล สัจจวานิชย์. (2546). ผลกระทบของเถ้าชานอ้อยในลักษณะวัสดุประสาน. วิศวกรรมสารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 48, 18-22.

หทัยรัตน์ ภู่ระหงษ์ และณพล อยู่บรรพต. (2559). การปรับปรุงคุณภาพดินเหนียวอ่อนกรุงเทพด้วยปูนซีเมนต์และเถ้าชานอ้อย. การประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติครั้งที่ 21 (น.1242-1248).สงขลา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย

อรรคเดช ฤกษ์พิบูลย์, นัฐภพ ถานะวุฒฺพงศ์, วีรชาติ ตั้งจิรภัทร, และชัย จาตุรพิทักษ์กุล. (2561). กําลังอัดประลัย อัตราการซึมของน้ำผ่านคอนกรีต และการแทรกซึมของคลอไรด์ผ่านคอนกรีตที่ใช้เถ้าชานอ้อยบดละเอียดแทนที่ปูนซีเมนต์ปริมาณสูง. วารสารวิชาการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย, 6(1), 1-9.

อรรถพล พระโคตร และดลฤดี หอมดี. (2565). การปรับปรุงสมบัติการรับแรงอัดและความคงทนของชั้นพื้นทางด้วยจีโอโพลีเมอร์ที่ใช้เถ้าชานอ้อยและเถ้าแกลบ. วิศวกรรมสารฉบับวิจัยและพัฒนา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, 33(1), 35-47.

อาทิมา ดวงจันทร์. (2549). การพัฒนาคอนกรีตบล็อกผสมเถ้าชานอ้อยสําหรับงานก่อสร้าง(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

Chusilp, N., Jaturapitakkul, C., & Kiattikomol, K. (2009). Utilization of bagasse ash as a pozzolanic material in concrete, Construction and Building Materials. 23, 3352–3358. doi: 10.1016/j.conbuildmat.2009.06.030

Fairbairn, E. M. R., Americano, B. B., Cordeiro, G. C., Paula, T. P., Toledo Filho, R. D., & Silvoso, M. M. (2010). Cement replacement by sugarcane bagasse ash: CO2 emissions reduction and potential for carbon credits. Journal of Environmental Management, 91(9), 1864–1871. doi: 10.1016/j.jenvman.2010.04.008

Rukzon, S., & Chindaprasirt, P. (2012) Utilization of bagasse ash in high-strength concrete. Materials & Design. 34, 45–50. doi: 10.1016/j.matdes.2011.07.045

Villar-Cocifta, E., Frias, M., & Valencia, E. (2008). Sugar cane wastes as pozzolanic materials: application of mathematic model. ACI Materials Journal, 105, 258-264. doi: 10.14359/19822

Downloads

Published

2024-04-26

Issue

Section

สาขาวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering)