ผลของการฝึกบันไดลิงที่มีต่อความคล่องแคล่ววองไว ่ ในนักกีฬาฟุตซอลหญิงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์

ผู้แต่ง

  • ทัศนา จารุชาต
  • จารุวรรณ เกิดแก้ว
  • อังคณา กาวิใจ

คำสำคัญ:

การฝึกบันไดลิง, ความคล่องแคล่วว่องไว, นักกีฬาฟุตซอลระดับมหาวิทยาลัย

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการฝึกบันไดลิงที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไว ในนักกีฬาฟุตซอลหญิงระดับมหาวิทยาลัยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักกีฬาฟุตซอลทีมหญิงของ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ จํานวน 11 คน อายุระหว่าง 19-22 ปีซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยวิธีการสุ่ม ตัวอย่างอย่างง่าย (Simple random sampling) ได้แก่ กลุ่มทดลอง จานวน ํ 6 คน ที่ได้รับการฝึกบันไดลิง ร่วมกับการฝึกทักษะฟุตซอลตามปกติและกลุ่มควบคุม จานวน ํ 5 คน ที่ได้รับการฝึกทักษะทางกีฬาฟุตซอ ลตามปกติอย่างเดียว และทําการเก็บข้อมูลตัวแปรด้านสรีรวิทยาและการทดสอบสมรรถภาพทางกายก่อน และหลังการฝึกตามโปรแกรมซึ่งจะทําการฝึก จํานวน 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ หลัง สิ้นสุดการทดลอง ผู้วิจัยทําการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการทดสอบค่าทีแบบรายคู่ (Dependent pair t-test) และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของตัวแปรต่างๆ ระหว่างกลุ่มทดลองและควบคุม โดยใช้การทดสอบค่าที แบบรายคู่ (Independent t-test) ผลการวิจัย พบว่า ภายหลังการฝึก 6 สัปดาห์กลุ่มทดลองมีความอ่อนตัว ความแข็งแรงของ กล้ามเนื้อหลัง พลังกล้ามเนอขาความคลองแคล่วว่องไวพลังสูงสุด พลังค่าเฉลี่ย และความอดทนของระบบ พลังงานแบบใช้ออกซิเจนมากกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสําคัญทางสถิตที่ระดับ .05 และความคล่องแคล่ว ว่องไวความเร็วพลังสูงสุด พลังค่าเฉลี่ยและความอดทนของระบบพลังงานแบบใช้ออกซิเจนมีการพัฒนา ดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสําคัญทางสถิตที่ระดับ.05 สรุปได้ว่า การฝึกบันไดลิงสงผลให้ความคล่องแคล่วว่องไวในนักกีฬาฟุตซอลดีขึ้น อาจเป็นผลมา จากโปรแกรมการฝึกมีรูปแบบการฝึกที่ เน้นการก้าวเท้าไว้อย่างชัดเจนและฝึกด้วยความเร็วเต็มที่ ฉะนั้น การ ฝึกบันไดลิงจึงมีความเหมาะสมสามารถนําไปใช้ฝึกเพื่ออพัฒนาความคล่องแคล่วว่องไวในนักกีฬาฟุตซอลได้

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2017-06-30

How to Cite

1.
จารุชาต ท, เกิดแก้ว จ, กาวิใจ อ. ผลของการฝึกบันไดลิงที่มีต่อความคล่องแคล่ววองไว ่ ในนักกีฬาฟุตซอลหญิงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ . Acad. J. Sci. Appl. Sci. [อินเทอร์เน็ต]. 30 มิถุนายน 2017 [อ้างถึง 26 กุมภาพันธ์ 2025];1(1):25-38. available at: https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/ajsas/article/view/3619