การเปรียบเทียบการฟื้นตัวของอัตราการเต้นของหัวใจภายหลังการการออกกําลังกาย

ผู้แต่ง

  • ภาคภูมิ โชคทวีพาณิชย์
  • ชินกร ปาคํา
  • วิษณุ ฉุนชาวนา

คำสำคัญ:

การฟื้นตัวของอัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนยกขาสูง, การนวดคลายกล้ามเนื้อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการฟื้นตัวของอัตราการ เต้นของหัวใจภายหลังการออกกําลังกายระหว่างการนอนยกขาสูงกับการนวดคลายกล้ามเนื้อ กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจยครั้งนี้เป็นนักศึกษาชายจํานวน 10 คน ที่กําลังศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ในปี การศึกษา 2559 โดยทําการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงและทุกคนยินยอมให้ความร่วมมือได้ ตลอดจนสิ้นสุดการวิจัย วิธีการทดลองโดยให้กลุ่มตัวอย่างทําการเดิน-วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าจนกว่าอัตราการเต้น ของหัวใจอยู่ที่ ระดับร้อยละ 60 ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด เป็นระยะเวลา 30 นาทีแล้วทําการพัก ด้วยการนอนยกขาสูง จากนั้นผู้วิจัยทําการวัดอัตราการเต้นหัวใจของกลุ่มตัวอย่างทุกๆ 1 นาทีจนกระทั้ง อัตราการเต้นของหัวใจกลับสู่ค่าขณะพัก และวัดต่อเนื่องไปอีก 5 นาทีจากนั้นอีก 1 สัปดาห์อาสาสมัคร กลุ่มเดิมจะถูกนัดให้กลับมาออกกําลังกายด้วยความหนักเท่าเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการพักเป็นนวดแทนการยก ขาสูง สําหรับการวิเคราะห์จะใช้สถิติ Paired Simple T-test ในการเปรียบเทียบระยะเวลาของอัตราการ เต้นของหัวใจสู่อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า การพักด้วยวิธียกขาสูงนั้นระยะเวลาการเต้นของหัวใจขณะออกกําลังกายกลับสู่ระยะหัวใจเต้นขณะพักน้อยกว่าการพักโดยใช้วิธีการ นวดอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05)
จึงสามารถสรุปได้ว่าการฟื้นตัวของอัตราการเต้นของหัวใจภายหลังการออกกําลังกายทั้ง วิธี นั้นวิธีพักโดยการยกขาสูงทําให้ใช้ระยะเวลาพักเฉลี่ยน้อยกว่าแบบการนวดคลายกล้ามเนื้อ เมื่ออออกกําลังกายที่ความหนักเท่าเดิม การศึกษานี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ฝึกสอนกีฬาในการนําไปประยุกต์ใช้กับนักกีฬาหรือ ผู้ที่กําลังออกกําลังกายในการย่นระยะเวลาพักฟื้นให้เร็วขึ้น

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2017-12-31

How to Cite

1.
โชคทวีพาณิชย์ ภ, ปาคํา ช, ฉุนชาวนา ว. การเปรียบเทียบการฟื้นตัวของอัตราการเต้นของหัวใจภายหลังการการออกกําลังกาย . Acad. J. Sci. Appl. Sci. [อินเทอร์เน็ต]. 31 ธันวาคม 2017 [อ้างถึง 26 กุมภาพันธ์ 2025];1(2):79-86. available at: https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/ajsas/article/view/3611