อาการปวดหลังของชาวนาที่ออกกำลังกายและไม่ออกกำลังกาย กรณีศึกษา ตำบลร่วมจิต อำภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์
คำสำคัญ:
ปวดหลังส่วนล่าง, ชาวนา, ความทนทานของกล้ามเนื้อล าตัวบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์อาการปวดหลังส่วนล่างและเปรียบเทียบความ ทนทานของกล้ามเนื้อลำตัวในชาวนาที่ออกกำลังกายและไม่ออกกำลังกาย ในตำบลแดนทอง อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ กลุ่มตัวอย่างเป็นชาวนาทำการสุ่มแบบจำเพาะเจาะจง ตรงกับเกณฑ์คัดเข้า-ออกของงานวิจัย จำนวน 40 คน เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับอาการปวดหลัง สำหรับเครื่องมือวัดความทนทาน ของกล้ามเนื้อลำตัวประกอบด้วยการวัดความทนทานของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test สำหรับการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของความ ทนทานกล้ามเนื้อลำตัว โดยก าหนดระดับนัยสำคัญที่ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า ชาวนาที่ออกกำลังกายร้อยละ 52.5 คน และไม่ออกกำลังกายร้อยละ 47.5 อายุ เฉลี่ย 48.41±18.3 ปี ส่วนใหญ่มีระดับอาการเจ็บปวดหลังระดับปานกลางพอทนไหว ร้อยละ 67.5 สำหรับการ เปรียบเทียบความแตกต่างของความทนทานกล้ามเนื้อลำตัวของชาวนาที่ออกกำลังกายและไม่ออกกำลังกาย พบว่า ค่าความทนทานของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องมีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p value=0.668 และ 0.805 ตามลำดับ) จากการศึกษาในครั้งนี้สรุปว่า อาการปวดหลังในชาวนาเป็นชนิดแบบไม่ทราบสาเหตุ ค่าความทนทาน ของกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องของชาวนาที่ออกกำลังกายและไม่ออกกำลังกายไม่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น บุคลากรทางด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องจึงควรออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อ อาการปวดหลังส่วนล่างได้ดีกว่าการออกกำลังกายแบบทั่ว ๆ ไป
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2018 วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการ/บทความวิจัยที่ได้ตอบรับการตีพิมพ์ถือเป็นลัขสิทธิ์ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์