การเปรียบเทียบสารตัวเติมกากตะกอนน้ำมันปาล์มและเขม่าดำในผลิตภัณฑ์ยาง

Authors

  • Thanate Ratanawilai Department of Industrial Engineering, Faculty of Engineering, Prince of Songkla University, Hat Yai, Songkhla, 90112
  • Sukrittahira Ratanawilai Department of Chemical Engineering, Faculty of Engineering, Prince of Songkla University, Hat Yai, Songkhla, 90112
  • Wantanee Sukawanich Department of Industrial Engineering, Faculty of Engineering, Prince of Songkla University, Hat Yai, Songkhla, 90112

Keywords:

ยาง, สารตัวเติม, เขม่าดำ, กากตะกอนน้ำมันปาล์ม, rubber, filler, carbon black, palm oil sludge

Abstract

น้ำมันปาล์มนอกจากใช้เป็นน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคแล้ว ยังใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกหลายประเภท เช่น ไบโอดีเซล สบู่
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมข้นหวาน เนยเทียม เป็นต้น ในการสกัดน้ำมันปาล์มดิบมีของเสียที่เกิดในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มหลากหลายชนิด
รวมทั้งกากตะกอนน้ำมันปาล์มซึ่งมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ทำให้มีแนวโน้มในการนำไปใช้เป็นพลาสติไซเซอร์เพื่อให้ยางนิ่มในระหว่างการบดผสม
งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำกากตะกอนน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นสารตัวเติมในผลิตภัณฑ์ยางแทนสารตัวเติมชนิดอื่น คือ เขม่าดำ ซึ่งเป็นการนำของเสียมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับกากตะกอนน้ำมันปาล์มอีกด้วย โดยทำการศึกษา 2 ปัจจัย คือ ปริมาณกากตะกอนน้ำมันปาล์มที่ 35, 45 และ 55 phr และร้อยละความชื้นของกากตะกอนน้ำมันปาล์ม ที่ร้อยละ 1, 10 และ 20 แล้วทำการเปรียบเทียบต้นทุนของสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตของการใช้เขม่าดำและกากตะกอนน้ำมันปาล์ม ผลการวิจัยพบว่า เมื่อปริมาณกากตะกอนน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นทำให้ค่าความแข็ง ความต้านทานการสึกหรอและความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังคงให้ค่าที่ต่ำกว่าการใช้เขม่าดำเป็นสารตัวเติมในขณะที่ค่าความต้านแรงดึงกลับมีแนวโน้มให้ค่าลดลง ส่วนค่าความชื้นของกากตะกอนน้ำมันปาล์มไม่ส่งผลกระทบต่อค่าความแข็ง ความต้านแรงดึง ความต้านทานการสึกหรอและความหนาแน่น ดังนั้น กากตะกอนน้ำมันปาล์มที่เติมลงไปในผลิตภัณฑ์ยางจึงทำหน้าที่เป็นสารตัวเติมชนิดไม่เสริมแรงแต่จัดเป็นสารตัวเติมเพื่อลดต้นทุน

 

Not only does palm oil use as vegetable oil consumption, but it is also one of raw materials in many continuous process-industries,
such as biodiesel, soap, instant noodle, condensed milk, margarine, and etc. In the process of crude palm oil extraction, many byproducts that are waste matters were found including palm oil sludge. This research aims to add value to the palm oil sludge, used as filler instead of carbon black which is one of a chemical compound in rubber. The two factors were studied, the amount of palm oil
sludge at 35, 45 and 55 phr, and the percentage of moisture at 1, 10, and 20. Cost of rubber product using carbon black and palm
oil sludge was compared. The result shows that the increasing amount of palm oil sludge resulting higher values of hardness, abrasion
resistance, and density but lower value of resistance to tensile strength. Thus, it concludes that palm oil sludge is utilized as filler in
rubber compound to act as non-reinforcing filler, but is classified as a filler to reduce costs.

Downloads

Published

2012-02-02

Issue

Section

Science and Technology