วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt <p><img src="https://ph03.tci-thaijo.org/public/journals/4/homepageImage_th_TH.jpg" /></p> <p> <strong>วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี</strong> (<strong>ISSN 2822-0196</strong><strong> (Print), ISSN 2822-020X (Online)</strong>) ได้ถูกจัดทำขึ้นให้เป็นสื่อกลางในการรวบรวมและเผยแพร่ผลงานวิจัย ผลงานทางวิชาการ สำหรับนักวิชาการ นักวิจัย บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไป โดยไม่หวังผลกำไรในการดำเนินการต่างๆ เพื่อใช้ในการเพิ่มพูนองค์ความรู้และใช้เป็นผลงานทางวิชาการสำหรับผู้ที่สนใจในด้านวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี</p> <div><strong> รองศาสตราจารย์ ดร. ปรีชา ปัญญา</strong></div> <div><strong> หัวหน้าบรรณาธิการ</strong></div> <div> </div> <div> <div class="box_title"> </div> <div class="side_box"> <div class="row"> <div class="col-md-12 col-sm-12 mb-3"> </div> </div> </div> </div> <div>Copyright © คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร</div> th-TH <p>บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ<strong>วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี</strong></p> <p>ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย</p> smt.kpru@gmail.com (รองศาสตราจารย์ ดร. ปรีชา ปัญญา) prateep_p@kpru.ac.th (ประทีป เพ็ญแจ้ง) Fri, 03 Jan 2025 12:25:02 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 Evaluation of Time-Dependent Displacement of Particle Bound in Anharmonics Oscillator Potential Perturb by Electrostatic External Force via Heisenberg Picture Method https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3215 <p>We consider the time-dependent electrostatic force anharmonic oscillator potential in one-dimension. Here, we derive the existing Heisenberg equations of motion from Newton’s second law. We can be used the time-dependent Hamiltonian operator for the time-dependent electrostatic force anharmonic oscillator system. We use the principal of Wronskian method solve for solution of the expectation value of displacement operator for particle bound in anharmonic oscillator potential system. The behavior of the expectation value of displacement operator is wave oscillate depend on the parameter linear frequency, the initial charge, the initial electric, the parameter and .</p> Artit Hutem Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3215 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 The Resampling Method for Estimating Variance of the Generalized Regression Estimator in the Presence of Nonresponse https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3111 <p>This paper aims to propose new variance estimators for the generalized regression estimator to estimate the population mean under a reverse framework, where nonresponse occurs in the study variable, as proposed by Ponkaew [1] in 2018. The proposed variance estimators are investigated using two resampling techniques, namely the Jackknife and the Rao-Wu bootstrap. The new variance estimator does not require joint inclusion probabilities, which differs from the variance estimator proposed by Ponkaew [1]. The effectiveness of the suggested estimators is examined through simulation experiments and an application to air pollution data from Phetchabun province, Thailand. The findings demonstrate that, in comparison to other estimators, the proposed Rao-Wu bootstrap variance estimator achieves the highest precision, producing the smallest the root mean square error.</p> Chugiat Ponkaew Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3111 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกรวมในสารสกัดใบอ่อนและใบแก่ของกาแฟโรบัสต้าเก็บจากสวนกาแฟในอำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร และสารสกัดใบอ่อนและใบแก่ของกาแฟอาราบิก้า เก็บจากสวนกาแฟในอำเภอเมือง จังหวัดตาก https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3232 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวมในสารสกัดใบกาแฟจากสายพันธุ์โรบัสต้า (ใบอ่อน) สายพันธุ์โรบัสต้า (ใบแก่) สายพันธุ์อาราบิก้า (ใบอ่อน) และสายพันธุ์อาราบิก้า (ใบแก่) โดยสกัดด้วย 65% เอทานอล แล้วนำไประเหยแห้งเอาตัวทำละลายออก สารสกัดสายพันธุ์อาราบิก้า (ใบแก่) มีร้อยละผลผลิตมากที่สุด เท่ากับ 13.23 โดยน้ำหนัก ขณะที่สายพันธุ์โรบัสต้า (ใบอ่อน) มีร้อยละผลผลิตน้อยที่สุด เท่ากับ 2.44 โดยน้ำหนัก นำไปทดสอบฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH assay โดยใช้บีเอชที (BHT) เป็นสารมาตรฐาน พบว่า สายพันธุ์โรบัสต้า (ใบแก่) ให้ฤทธิ์สูงสุด โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 11.397 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และสารสกัดสายพันธุ์อาราบิก้า (ใบอ่อน) ให้ฤทธิ์ต่ำสุด โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 57.053 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร เมื่อศึกษาสารประกอบ ฟีนอลิกรวม พบว่า สารสกัดสายพันธุ์โรบัสต้า (ใบอ่อน) มีปริมาณสูงที่สุด คือ 558.54 มิลลิกรัมสมมูลกรดแกลลิกต่อกรัมของสารสกัด</p> ธิดารัตน์ พรหมมา, ปาริตา อาบวารี, ธีรศักดิ์ สารรัตน์, อัครินทร์ บุรีรักษ์, ศุภวัฒน์ วิสิฐศิริกุล, นเรศ ขำเจริญ, ปราณี เลิศแก้ว Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3232 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาไข่ขาวต้มพร้อมทานเสริมสารสกัดจากผักแพวแดงสำหรับผู้สูงอายุ https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3037 <p>ผู้สูงอายุมีข้อจำกัดในเรื่องการบริโภคเนื่องจากสุขภาวะของร่างกาย ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมีแนวคิดในการพัฒนาอาหารสำหรับผู้สูงอายุจากไข่ขาวต้มเสริมสารสกัดจากพืช โดยทำการศึกษาวิธีการสกัดสารสำคัญจากผักแพวแดง ตัวทำละลายที่เหมาะสม วิเคราะห์ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ การประเมินคุณภาพทางประสาทสัมผัส และวิเคราะห์โภชนาการของผลิตภัณฑ์ จากการศึกษาพบว่าการสกัดด้วยไมโครเวฟ ใช้กำลังไฟ 300 วัตต์ เวลาในการสกัด 15 นาที และใช้แอลกอฮอล์ 35% เป็นตัวทำละลาย เป็นสภาวะการสกัดที่เหมาะสม มีปริมาณโพลีฟีนอลและฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ เท่ากับ 81.97± 0.73 µg GAE/ml และ 61.72± 0.87 % ตามลำดับ การทำแห้งสารสกัดโดยวิธีทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง การใช้แลคโตส 15% ได้ปริมาณผลผลิตสูงสุด รองลงมาคือ มอลโตเดกซ์ตริน 15% มีผลผลิต เท่ากับ 13.83±0.04% และ 13.17± 0.01% ตามลำดับ ในขณะที่มอลโตเดกซ์ตริน 15% มี aw ต่ำที่สุด เท่ากับ 0.05±0.00 เมื่อนำสารสกัดผักแพวแดงมาเติมในผลิตภัณฑ์ไข่ขาวต้มทั้งหมด 4 สูตร ในปริมาณ 5% และทดสอบกับผู้สูงอายุ (60-85) ปี พบว่า สูตรที่มีการเติมสารสกัดและปรุงรสพะโล้ได้รับคะแนนความชอบมากที่สุด จากนั้นนำไปวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ พบว่า มีพลังงานต่อ 100 กรัม เท่ากับ 105.95±0.50 กิโลแคลอรี่ และมีปริมาณโปรตีน 9.24± 0.35% ไขมัน 0.03± 0.01% คาร์โบไฮเดรต 17.18 ±0.19% เถ้า 1.41± 0.01% และความชื้น 72.14± 0.13% ตามลำดับ</p> พรหทัย พุทธวัน, จันทร์เพ็ญ แซ่หาญ, ธัญญาลักษณ์ ปิยะเลิศ Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3037 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 การประยุกต์ใช้สารไกลโฟเซตเป็นสารพรีทรีตเมนต์ในการศึกษาการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส ในทานตะวัน https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3038 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ หาระยะเวลาของการทำพรีทรีตเมนต์ด้วยสารละลายไกลโฟเซตที่เหมาะสมต่อการศึกษาการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสของทานตะวันด้วยวิธีการทำพรีทรีตเมนต์ โดยวางแผนการทดลองแบบแบบสุ่มสมบรูณ์ (Completely Randomized Design; CRD) จำนวน 3 ซ้ำ ซ้ำละ 10 ตัวอย่าง มีปัจจัยศึกษา 1 ปัจจัยคือ ระยะเวลาของการทำพรีทรีตเมนต์ 4 กรรมวิธี ได้แก่ 0 ชั่วโมง, 1 ชั่วโมง, 2 ชั่วโมง และ 3 ชั่วโมง โดยใช้พืชตัวอย่างคือ ทานตะวัน (Helianthus annuus L.) พบว่า ระยะเวลาของการทำพรีทรีตเมนต์ ที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยร้อยละของการยับยั้งการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสของทานตะวันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่น 95 % โดยพบว่า กรรมวิธีการพรีทรีตเมนต์ด้วยสารละลายไกลโฟเซตเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง ให้ผลค่าร้อยละของการยับยั้งการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสของทานตะวันมากที่สุดคือ ร้อยละ 65.00 ± 5.00 ในขณะที่ กรรมวิธีควบคุมซึ่งใช้น้ำกลั่น ไม่ทำให้เกิดการยับยั้งการแบ่งเซลล์ (ร้อยละ 0) นอกจากนี้ยังพบว่า ค่าคะแนนของการยับยั้งการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสของทานตะวันที่เกิดจากการใช้สารละลายไกลโฟเซตเป็นสารพรีทรีตเมนต์ในระยะเวลาที่แตกต่างกันทั้ง 3 กรรมวิธี ให้ค่าที่เท่ากันคือ 3 คะแนน ดังนั้นการวิจัยนี้ จึงสรุปว่า สารไกลโฟเซต สามารถใช้เป็นสารพรีทรีตเมนต์ในการศึกษาการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสในทานตะวันได้</p> กฤษฎิ์พงศ์ ภาษิตวิไลธรรม, จารุวรรณ เนื้อทอง Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3038 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง พิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชร เฉลิมพระเกียรติ (พิพิธภัณฑ์เรือนไทย) https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3221 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงโดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality: VR) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลทางด้านวัฒนธรรม วิธีการวิจัยประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และการสัมภาษณ์ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เรือนไทย 2) การออกแบบระบบ โดยใช้แบบจำลองข้อมูลและกระบวนการ (Data and Process Model) และการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน (UI/UX) 3) การพัฒนาระบบด้วยโปรแกรม Autodesk Maya ในการสร้างโมเดล 3 มิติ และโปรแกรม Unity ในการพัฒนาสภาพแวดล้อมเสมือนจริงของพิพิธภัณฑ์เรือนไทย 4) การทดสอบและประเมินผลจากผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ 5 คน และกลุ่มเยาวชนจังหวัดกำแพงเพชร อายุ 15–24 ปี จำนวน 30 คน โดยใช้แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และ และคำถามปลายเปิดสำหรับรวบรวมความคิดเห็นเพิ่มเติม และ 5) การวิเคราะห์และสรุปผลด้วยสถิติพรรณนา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่าผู้ใช้งานมีความพึงพอใจในระดับ "มาก" (ค่าเฉลี่ย 3.81) โดยเฉพาะในด้านเนื้อหาและ<br />ความชัดเจนของภาพ 3 มิติ อย่างไรก็ตาม ด้านความสมจริงของภาพยังต้องการการปรับปรุงเพิ่มเติม ข้อเสนอแนะจาก<br />การวิจัย ได้แก่ การเพิ่มฟังก์ชันแบบอินเทอร์แอกทีฟ เช่น หน้าต่างแสดงข้อมูลพร้อมเสียงบรรยาย และกิจกรรมในรูปแบบเกม เพื่อเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ควรพัฒนาระบบให้รองรับอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล</p> <p> </p> สิทธิพงษ์ สุวรรณ์, ชัยนวัฒน์ เหลืองเพชรรัตน์, พรนรินทร์ สายกลิ่น Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3221 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหาการวัดปริมาตร โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับกลวิธี STAR สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3271 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการวัดปริมาตร สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ระหว่างก่อนและหลังจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือร่วมกับกลวิธี STAR และเพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับกลวิธี STAR กับเกณฑ์ร้อยละ 70 ส่งเสริมการมีส่วนร่วม การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาร่วมกัน กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เลือกกลุ่มตัวอย่างอย่างง่ายจำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ใน<br />การวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้การสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบแบ่งกลุ่มทำงาน และแบบทดสอบเรื่องโจทย์ปัญหาการวัดปริมาตร โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการวัดปริมาตร<br />หลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกับกลวิธี STAR สูงกว่าก่อนจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกับกลวิธี STAR โดยมีคะแนนเฉลี่ย อยู่ที่ 11.98 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.62 คะแนน คิดเป็นร้อยละที่เพิ่มขึ้น 22.63% และมีค่า t-test ที่เป็นไป<br />ตามเกณฑ์ และความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมกับกลวิธี STAR สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 11.98 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.96</p> <p> </p> อารีรัตน์ ชะนู, ปิยดา โพธิ์ศรี, รุ่งอรุณ พยอมหอม, วราภรณ์ สุ่มมาตย์ Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3271 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กราฟของฟังก์ชันกำลังสอง โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ เชิงรุกร่วมกับแอปพลิเคชัน Desmos ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนปทุมวิิไล https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3270 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียน โดยใช้กระบวนการวิธีการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับแอปพลิเคชัน Desmos ในการเรียนรู้กราฟของฟังก์ชันกำลังสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ผ่าน วิธีการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ร่วมกับแอปพลิเคชัน Desmos ในหัวข้อเดียวกัน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 45 คน จากโรงเรียนปทุมวิไล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ปทุมธานี เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 10 ข้อ และ 2) แบบสอบถาม<br />ความพึงพอใจจำนวน 21 ข้อ โดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าเฉลี่ย 95.3% และระดับความพึงพอใจเฉลี่ยของนักเรียนอยู่ที่ 4.49 (S.D. = 0.69) ซึ่งแสดงถึงความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก สำหรับคำถามที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ การเรียนรู้วิธีการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่ร่วมกับแอปพลิเคชันเดสมอสเหมาะสมกับเนื้อหาวิชา โดยมีระดับความพึงพอใจอยู่ที่ 4.68 (S.D. = 0.60) ขณะที่คำถามที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ การช่วยให้นักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น โดยมีระดับความพึงพอใจ 4.26 (S.D. = 0.77) ซึ่งแสดงถึงความพึงพอใจ<br />ในระดับมากแต่ยังมีพื้นที่สำหรับการพัฒนา การวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้วิธีการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ร่วมกับแอปพลิเคชันเดสมอสการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักเรียน ซึ่งอาจส่งผลดี<br />ต่อการพัฒนาวิธีการสอนในอนาคต</p> หฤทัย ทองพันธ์, ปิยดา โพธิ์ศรี, พณมจรัสกาญจณ์ ฤกษ์ฤทธิ์ Copyright (c) 2024 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3270 Thu, 26 Dec 2024 00:00:00 +0700