วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt <p> <strong>วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี</strong> <strong>(ISSN 2822-0196 (Print), ISSN 2822-020X (Online))</strong> ได้ถูกจัดทำขึ้นให้เป็นสื่อกลางในการรวบรวมและเผยแพร่ผลงานวิจัย ผลงานทางวิชาการ สำหรับนักวิชาการ นักวิจัย บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไป โดยไม่หวังผลกำไรในการดำเนินการต่างๆ เพื่อใช้ในการเพิ่มพูนองค์ความรู้และใช้เป็นผลงานทางวิชาการสำหรับผู้ที่สนใจในด้านวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี</p> <p><strong> รองศาสตราจารย์ ดร. ปรีชา ปัญญา</strong></p> <p><strong> หัวหน้าบรรณาธิการ</strong></p> <p> </p> <p>Copyright © คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร</p> th-TH <p>บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ<strong>วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี</strong></p> <p>ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย</p> smt.kpru@gmail.com (รองศาสตราจารย์ ดร. ปรีชา ปัญญา) prateep_p@kpru.ac.th (ประทีป เพ็ญแจ้ง) Mon, 30 Jun 2025 19:59:20 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การศึกษาผลของกำลังที่ใช้ในการส่งบอลสำเร็จที่มีผลต่อการส่งบอลของนักฟุตบอลระดับเยาวชน https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3749 <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของกำลังที่ใช้ในการส่งบอลต่อประสิทธิภาพการส่งบอลของนักฟุตบอลระดับเยาวชน โดยใช้การวิเคราะห์วิดีโอด้วยภาษาไพธอน (Python-based Video Analysis) ร่วมกับการคำนวณเชิงฟิสิกส์ในไมโครซอฟต์เอ็กเซล กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักฟุตบอลเยาวชนชายจำนวน 22 คน จากศูนย์ฝึกฟุตบอลใจฟ้า อคาเดมี จังหวัดลพบุรี วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การถดถอยพหุคูณ และการคำนวณขนาดอิทธิพล (Effect Size) ด้วยค่า η² และ R² ผลการวิจัยพบว่า กำลังที่ใช้ในการส่งบอลไม่มีอิทธิพลต่อจำนวนครั้งที่ส่งบอลสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.58) แม้จะมีค่า η² = 0.143 ซึ่งบ่งชี้ถึงอิทธิพลในระดับปานกลาง ความเร็วมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับจำนวนครั้งที่ส่งบอลสำเร็จ (r = 0.55, p = 0.004) และสามารถทำนายผลได้อย่างชัดเจน (β = 2.65, p = 0.002, R² = 0.62) ข้อค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าความเร็วของนักกีฬามีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จในการส่งบอลมากกว่าปริมาณพลังงานที่ใช้</p> วันฉัตร สุวรรณประเสริฐ, ปานเลขา เล็กเจริญ, ชลธิชา กล่ำทอง , สรายุทธ์ พานเทียน ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3749 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 แบบจำลองทางฟิสิกส์การคำนวณหาระยะหยุดของวัตถุเคลื่อนที่ในพื้นผิวที่มีความเสียดทานโดยใช้การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลเพนดูลัม https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3730 <p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแบบจำลองการคำนวณหาระยะหยุดของวัตถุเคลื่อนที่ในพื้นผิวที่มีความเสียดทานโดยใช้การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลเพนดูลัม โดยมีวัตถุเคลื่อนที่ในพื้นผิวที่มีความเสียดทานมี 3 แบบ คือ ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลมกลวง และทรงกลมตัน โดยใช้การเคลื่อนที่แบบซิมเปิลเพนดูลัมของวัตถุเข้าชนกับวัตถุเคลื่อนที่ในพื้นผิวที่มีความเสียดทาน ทั้ง 3 แบบ แล้วใช้กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม และทฤษฎีงานและพลังงานเพื่อคำนวณหาระยะหยุดของวัตถุเคลื่อนที่ในพื้นทรายมีความสัมพันธ์กับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน</p> อาทิตย์ หู้เต็ม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3730 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 สมการไดโอแฟนไทน์ 1/x+2/y+4/z=1/2 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3385 <p> ในงานวิจัยนี้ได้ศึกษาหาผลเฉลยจำนวนเต็มบวกทั้งหมดของสมการไดโอแฟนไทน์ <img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?\frac{1}{x}+\frac{2}{y}+\frac{4}{z}=\frac{1}{2}" alt="equation" /> เมื่อ <img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?%20x,y" alt="equation" /> และ <img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?z" alt="equation" /> เป็นจำนวนเต็มบวก</p> สุธน ตาดี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3385 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังสารเคมีในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/4020 <p> การบริหารสารเคมีในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการจัดการเรียนการสอน และการวิจัยให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การบันทึกข้อมูลด้วยวิธีการแมนนวลหรือกึ่งอัตโนมัติมักประสบปัญหาด้านความถูกต้อง ความล่าช้า และเสี่ยงต่อการใช้สารเคมีที่หมดอายุ อีกทั้งยังขาดข้อมูลที่สนับสนุนการตัดสินใจในการวางแผนกำจัดสารเคมีที่หมดอายุหรือผ่านการใช้งานแล้ว งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการคลังสารเคมีในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ โดยออกแบบเป็นเว็บแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการข้อมูลสารเคมีและการเบิกจ่ายในห้องปฏิบัติการเคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และสิ่งแวดล้อม ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ระบบที่พัฒนาขึ้นมีความสามารถในการติดตามข้อมูลสารเคมีแบบเรียลไทม์ (Real-Time) แจ้งเตือนปริมาณสารคงคลังที่เหลือน้อยหรือใกล้วันหมดอายุโดยอัตโนมัติ กำหนดสิทธิ์การใช้งานตามบทบาท และจัดทำรายงานข้อมูลที่สามารถนำไปใช้วางแผนการกำจัดสารเคมีอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ระบบดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดยใช้โครงสร้าง เอ็มเอ็มวีซี (Module - Model - View - Controller: MMVC) บนเฟรมเวิร์ก คชสาร พีเอชพี (Kotchasan PHP Framework) ร่วมกับฐานข้อมูล มายเอสคิวแอล (MySQL) เพื่อรองรับกระบวนการบริหารจัดการคลังสารเคมีอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งการรับเข้า การเบิกจ่าย การติดตามการใช้งาน และการรายงานข้อมูลสารเคมี ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อระบบ จากกลุ่มตัวอย่าง 40 คน ซึ่งประกอบด้วยอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา พบว่าอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.61 สะท้อนถึงระบบที่พัฒนาขึ้นมีศักยภาพในการยกระดับการบริหารจัดการคลังสารเคมีในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัย และสนับสนุนการบริหารทรัพยากรอย่างยั่งยืน</p> จำรูญ จันทร์กุญชร, กนกวรรณ กันยะมี, จุฬาลักษณ์ มหาวัน, สิทธิชัย ฐานะ, อภิญญา ปาละวงศ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/4020 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 การศึกษาสัดส่วนที่เหมาะสมของมะเฟืองในกระบวนการผลิตคราฟต์โซดามะเฟือง https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3811 <p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการผลิตคราฟต์โซดาจากมะเฟืองและวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์คราฟต์โซดาจากมะเฟือง ผลการวิเคราะห์คุณลักษณะทาง กายภาพ ทางเคมีของคราฟต์โซดาผลไม้ในท้องตลาด 3 ยี่ห้อ และทำการทดสอบชิมเพื่อหาความชอบ พบว่าคราฟต์โซดาในท้องตลาดตัวอย่าง Bมีความชอบรวมสูงที่สุด โดยมีปริมาณกรดทั้งหมดสูงสุด 1.54 % และปริมาณของแข็งที่ละลายได้สูงสุด 8.70 <sup>o</sup>Brix และการศึกษาสัดส่วนที่เหมาะสมของมะเฟืองในกระบวนการผลิต และตรวจสอบคุณลักษณะของคราฟต์โซดามะเฟือง พบว่าคราฟต์โซดาที่ใช้น้ำมะเฟืองในสัดส่วนต่อน้ำตาลมากที่สุด คือ 125 : 175 กรัม ได้รับคะแนนความชอบรวมสูงที่สุด 7.13 โดยมีปริมาณกรดทั้งหมดน้อยที่สุด 0.8 % แต่มีปริมาณของแข็งที่ละลายได้สูงที่สุด 15.4 <sup>o</sup>Brix เมื่อเปรียบเทียบกับคราฟต์โซดาตัวอย่าง B มีความใกล้เคียงกันในค่า pH และ ค่าสี L*, a*, b* คราฟต์โซดาทุกตัวอย่างผ่านตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช. 2/2546)</p> วชิระ สิงห์คง, กฤษดา กาวีวงศ์, นิธิภัทร์ หวิงปัด, พรสวรรค์ ฤดีทัย, บุณยกฤต รัตนพันธุ์, พงศกร แสงหงษ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3811 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมีเรื่องสารละลาย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา จังหวัดกำแพงเพชร https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3661 <p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA model) ร่วมกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมีเรื่องสารละลาย ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา จำนวน 2 ห้องเรียน โดยการสุ่มห้องเรียนด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่มเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 38 คน และกลุ่มควบคุมจำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) บทเรียน CAI เรื่องสารละลาย 2) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องสารละลายแบบ CIPPA model ร่วมกับบทเรียน CAI 3) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องสารละลายแบบ CIPPA model 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องสารละลาย และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อบทเรียน CAI ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ t-test แบบ independent และ แบบ dependent ผลการวิจัยพบว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาเคมี เรื่อง สารละลาย มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 80.26/80.53 โดยนักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียน CAI อยู่ในระดับมาก ( = 4.34, SD = 0.69) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาร่วมกับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนหลังเรียนสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบซิปปาเพียงวิธีเดียวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05</p> ภูริชญา กรอยสระน้อย, อัจฉรา ใจดี, สุรีย์พร บุญชื่น, สิริวรรณ์ สมหวัง, พรมณี เทศคง, ศิรประภา พลธนะ, ชญาดา กลิ่นจันทร์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3661 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม GeoGebra เรื่อง การสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3827 <p> การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม GeoGebra ในหัวข้อการสร้างพื้นฐานทางเรขาคณิต กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จำนวน 49vคน ซึ่งได้รับการสอนโดยใช้โปรแกรม GeoGebra ในการทดลองใช้ระยะเวลาหนึ่ง ภายหลังการเรียนรู้ ได้ทำการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน รวมถึงสำรวจความพึงพอใจของนักเรียน</p> <p> ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นหลังจากได้รับการเรียนรู้ผ่านโปรแกรม GeoGebra โดยคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเพิ่มขึ้นจาก 4.92 เป็น 11.16 นอกจากนี้ ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนการสอนโดยใช้ GeoGebra อยู่ในระดับสูงมาก (ค่าเฉลี่ย 4.67, S.D. 0.51) ข้อค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้โปรแกรม GeoGebra สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ทางเรขาคณิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ</p> อชิรญาณ์ ดีงาม, ปิยดา โพธิ์ศรี, ณัฏฐกัลย์ ตั้งชัยวรรณา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3827 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700 แนวทางการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาค่าลอการิทึม ด้วยไม้บรรทัดลอการิทึม https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3136 <p> กิจกรรมการเรียนการสอนทางคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักเรียนต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายนั้นมีความเป็นนามธรรมค่อนข้างสูง ซึ่งอาจทำให้นักเรียนไม่เข้าใจและไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้ และทำให้เกิดเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่อไป ลอการิทึม เป็นหนึ่งในหัวข้อที่มีความเป็นนามธรรม ดังนั้นครูจึงต้องตระหนักเกี่ยวกับการสอนเนื้อหานี้เป็นอย่างมาก การใช้ไม้บรรทัดลอการิทึมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จึงเป็นวิธีที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งทำให้นักเรียนสามารถหาค่าของลอการิทึมได้สะดวกขึ้น</p> ภมรเมษย์ เลาหวิรุฬห์กุล, สรรฐณัฐ ปัญญาเสฏโฐ, ชนิสรา เมธภัทรหิรัญ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มรภ.กพ. วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี https://creativecommons.org/licenses/by-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/smt/article/view/3136 Mon, 30 Jun 2025 00:00:00 +0700