วารสารเกษตรรำไพ
https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/kaset_rbruj
<p><span style="font-weight: 400;"> วารสารวิจัยเกษตรรำไพ เป็นวารสารที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer reviews) ตรวจทานก่อนได้รับการตีพิมพ์ จัดทำโดย คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี รับบทความวิจัยและบทความวิชาการ เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่เป็นระบบไตรมาส (ปีละ 3 ฉบับ) โดยฉบับที่ 1 ตีพิมพ์ประจำเดือนมกราคม - เมษายน ฉบับที่ 2 เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม และฉบับที่ 3 เดือนกันยายน – ธันวาคม ของทุกปี แต่ละฉบับตีพิมพ์บทความไม่เกิน 5 เรื่อง</span></p> <p><span style="font-weight: 400;"> </span> เปิด<span style="font-weight: 400;">รับบทความด้านการเกษตร เช่น เกษตรศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร ปฐพีศาสตร์ สัตวศาสตร์ เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร วิทยาศาสตร์เกษตร หรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ตีพิมพ์ในรูปแบบบทความวิจัยเต็มรูปแบบ (Full length article) โดยบทความดังกล่าวจะต้องไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่นมาก่อน บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารจะต้องส่งในรูปแบบการเขียนตามที่กำหนด (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคำแนะนำการเตรียมต้นฉบับ) ทุกบทความที่จะได้รับการตีพิมพ์ จะทำการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ท่าน แบบผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่งไม่ทราบชื่อกันและกัน (Double-blind review) และเมื่อผ่านการประเมินแล้ว กองบรรณาธิการของสงวนสิทธิ์ในการตรวจแก้ไขเรื่องที่จะส่งพิมพ์ตามที่เห็นสมควร และไม่รับพิจารณาต้นฉบับที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การตีพิมพ์ของวารสาร สำหรับผู้สนใจบทความสามารถเข้าถึงเนื้อหาผลงานตีพิมพ์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (Open access)</span></p>
th-TH
วารสารเกษตรรำไพ
2822-1419
-
การศึกษาห่วงโซ่อุปทานของเปลือกทุเรียนและสารพิษตกค้างในเส้นใยอาหาร จากเปลือกทุเรียนเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์
https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/kaset_rbruj/article/view/3316
<p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาห่วงโซ่อุปทานของเปลือกทุเรียน และสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่แปรรูปผลิตภัณฑ์ทุเรียน จากการวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานของเปลือกทุเรียน พบว่า เศษเหลือเปลือกทุเรียนที่เกิดขึ้นจากผู้แปรรูปในส่วนกลางน้ำ โดยการแปรรูปทุเรียนทอด เป็นแหล่งรวบรวมเปลือกทุเรียนที่เหมาะสม เนื่องจากสามารถรวบรวมได้ครั้งละจำนวนมาก หลังจากนั้นคัดเลือกแหล่งของเปลือกทุเรียนจำนวน 5 แหล่ง เพื่อนำไปผลิตเป็นเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียน และวิเคราะห์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Organophosphorus กลุ่มที่ 2 Organochlorine กลุ่มที่ 3 Pyrethroid กลุ่มที่ 4 Carbamate พบว่า มีสารตกค้างในกลุ่ม Organophosphorus ซึ่งพบ Dichlorvos ในเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียนแหล่งที่ 2 และแหล่งที่ 4 พบ Methyl parathion ในเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียนแหล่งที่ 2 และพบ Mevinphos ในเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียนแหล่งที่ 4 การศึกษาวิจัยในครั้งนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านเคมีของเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียน สำหรับการใช้ประโยชน์ของเส้นใยอาหารจากเปลือกทุเรียนต่อไป</p>
จิรพร สวัสดิการ
ดวงรัตน์ สวัสดิ์มงคล
หยาดรุ้ง สุวรรณรัตน์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษตรรำไพ
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-28
2025-08-28
3 2
1
10
-
การศึกษาชนิดของวัชพืชใน อินทผลัม มันเทศ ลิลลี่ กล้วยไม้สกุลหวายและฟาแลนนอปซิส เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อศัตรูพืช
https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/kaset_rbruj/article/view/3775
<p>การสำรวจชนิดของวัชพืชใน อินทผลัม มันเทศ ลิลลี่ กล้วยไม้สกุลหวายและสกุลฟาแลนนอปซิส ในระหว่างปีงบประมาณ 2565-2567 ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อศัตรูพืช สำรวจ จำแนกชนิด และจัดทำตัวอย่างแห้ง โดยสำรวจแบบสืบพบ ในแปลงอินทผาลัม จำนวน 98 แปลง มันเทศ จำนวน 44 แปลง ลิลลี่ จำนวน 4 แปลง และกล้วยไม้สกุลหวายและสกุลฟาแลนนอปซิส พบวัชพืช 55, 38, 11 และ 14 ชนิด ตามลำดับ วัชพืชวงศ์ที่มีความหลากหลายในแต่ละพืชคือ วงศ์ทานตะวัน Asteraceae ซึ่งมีความถี่สัมพัทธ์ของวงศ์สูงสุดด้วยเช่นกัน รองลงไปได้แก่ วัชพืชวงศ์หญ้า (Poaceae) วงศ์กก Cyperaceae แต่ความถี่สัมพัทธ์แตกต่างกันในแต่ละพืช และชนิดวัชพืชที่พบความถี่สัมพัทธ์สูงสุดในแต่ละชนิดของพืชปลูกแตกต่างกันไป แต่มักเป็นวัชพืชที่เป็นสมาชิกวงศ์หญ้า</p>
ธัญชนก ศรีเมือง
อัณศยา พรมมา
วัชระ สังข์ทอง
นิชากรณ์ ใจดี
กาญจนา พฤษพันธ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษตรรำไพ
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-28
2025-08-28
3 2
11
25
-
การสำรวจคุณภาพของชีวภัณฑ์เชื้อรา Trichoderma ทางการค้า สำหรับควบคุมเชื้อก่อโรคพืชในประเทศไทย
https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/kaset_rbruj/article/view/4014
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจคุณภาพของชีวภัณฑ์เชื้อรา <em>Trichoderma</em> ทางการค้าสำหรับควบคุมเชื้อก่อโรคพืชจำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ ที่จำหน่ายทางออนไลน์ โดยประเมินจากรายละเอียดที่ระบุบนฉลาก ปริมาณเชื้อในชีวภัณฑ์ และประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราก่อโรคบางชนิด จากการศึกษาพบว่ามีชีวภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดมาตรฐานสินค้าการเกษตรจำนวน 4 ผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ 80) เป็นชีวภัณฑ์สูตรสำเร็จในรูปแบบชนิดน้ำ (ชีวภัณฑ์เครื่องหมายการค้า A และ B) และรูปแบบชนิดแข็ง (ชีวภัณฑ์เครื่องหมายการค้า C และ D) และมีชีวภัณฑ์จำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ 20) เป็นชีวภัณฑ์รูปแบบเชื้อสด (ผลิตภัณฑ์ E) ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานด้านฉลากบรรจุภัณฑ์ จากการตรวจนับปริมาณเชื้อรา<em> Trichoderma</em> ในชีวภัณฑ์ทุกเครื่องหมายทางการค้า พบว่ามีปริมาณเชื้อรา <em>Trichoderma</em> อยู่ในเกณฑ์ผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ขั้นต่ำในด้านปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ที่ขึ้นทะเบียนชีวภัณฑ์ทางการค้า เมื่อนำเชื้อรา<em> Trichoderma</em> ที่แยกได้จากชีวภัณฑ์มาทดสอบประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญกับเชื้อก่อโรคพืช 4 ชนิด ด้วยวิธี Dual culture plate บนจานอาหารเลี้ยงเชื้อ PDA พบว่าชีวภัณฑ์เครื่องหมายทางการค้า A (<em>Trichoderma asperellum</em>) สามารถยับยั้งเชื้อราก่อโรคพืช <em>Colletrotrichum gloeosporioides</em> KPS 00286 ได้มากที่สุดที่ร้อยละ 70.00 ชีวภัณฑ์เครื่องหมายทางการค้า C (<em>T. harzianum</em>) สามารถยับยั้งเชื้อราก่อโรคพืช <em>Phomopsis asparagi</em> KPS 00288 และ <em>Rhizoctonia oryzae</em> KPS 00289 ได้ร้อยละ 91.18 และ 74.29 ตามลำดับ ชีวภัณฑ์เครื่องหมายทางการค้า D (<em>T. asperellum</em>) สามารถยับยั้งเชื้อราก่อโรคพืช <em>Fusarium </em>sp. B1-1 ได้มากที่สุดที่ร้อยละ 78.10</p>
อนุเทพ ภาสุระ
ณัฐชุกร แสงสว่าง
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารเกษตรรำไพ
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-08-28
2025-08-28
3 2
26
36