วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech th-TH jscitech@rmutsb.ac.th (-) jscitech@rmutsb.ac.th (-) Mon, 23 Dec 2024 22:49:38 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การศึกษาวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายที่มีต่อสุขภาพของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2496 <p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายที่มีต่อสุขภาพของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เพื่อจะได้นำผลการศึกษามาใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวางแผนปรับปรุงแก้ไขและส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพให้แก่บุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ กลุ่มประชากร คือ กลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จำนวนทั้งหมด 122 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ เครื่องตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกาย วิเคราะห์ข้อมูลโดย หาร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และนำเสนอในรูปของตาราง ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบของร่างกายที่มีต่อสุขภาพของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละด้าน พบว่า มีค่าดัชนีมวลกายลดลงเนื่องจากการมีน้ำหนักตัวลดลง ร้อยละของมวลไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น มีน้ำหนักตัวลดลงเนื่องจากการมีมวลกล้ามเนื้อลายลดลง</p> สมเกียรติ คงธนจินดาสิริ Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2496 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการฝึกปฎิบัติจริง สำหรับนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2566 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างต้นแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการฝึกปฏิบัติจริงสำหรับนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ซึ่งเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษ อาจารย์สอนภาษาอังกฤษ และนักศึกษา เพื่อนำมาออกแบบการสอนภาษาอังกฤษสำหรับวิชา “ภาษาอังกฤษเพื่อการสนทนาเชิงโต้ตอบ” ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 สำหรับกลุ่มทดลองคือนักศึกษาจำนวน 33 คน รวมทั้งยังมีการเก็บข้อมูลจากการสังเกตการณ์ในระหว่างการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาและปรับปรุง ผลการวิจัยจากการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า ควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่นักศึกษามีส่วนร่วมผ่านโซเชียลมิเดีย เช่นยูทูปและติกต๊อกที่สามารถสร้างความเพลิดเพลินในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ ผลการวิจัยยังพบว่าเกิดผลสัมฤทธิ์จากการเรียนการสอนดังกล่าวจากชุดกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย การบรรยาย การอภิปราย การสอนแบบโปรแกรม การระดมสมอง และการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการฝึกปฏิบัติจริง ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม พบว่า เกิดผลสัมฤทธิ์ในการสอน ทำให้นักศึกษาประเมินทักษะทั้ง 4 ด้าน (ฟัง พูด อ่าน และ เขียน) ของตนเอง ในระดับที่ดีขึ้น จากการประเมินตนเองหลังการเรียนรู้ นักศึกษาคิดว่าตนเองมีทักษะอยู่ใน ระดับมาก เพิ่มขึ้นทั้ง 4 ทักษะ และ ระดับมากที่สุด เพิ่มขึ้นในทักษะด้านการฟังและการเขียน จึงสรุปได้ว่าการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบดังกล่าวสามารถพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญและควรขยายผลไปสู่ชั้นเรียนอื่น ๆ ต่อไป</p> มยุรี สวัสดิ์เมือง, ขวัญฤทัย บุญยะเสนา, สุจิรา ไชยกุสินธุ์, สุวีณา รุ่งโรจน์รัตนากร, Peter Ajonghakoh Foabeh, สุนทรา เฟื่องฟุ้ง Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2566 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การศึกษาพฤติกรรม ปัญหาและความต้องการในการออกกำลังกายของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2992 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรม ปัญหาและความต้องการในการออกกำลังกายของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในครั้งนี้เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี ปีการศึกษา 2566 จำนวน 388 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีการตรวจสอบคุณภาพมีความตรงเชิงเนื้อหา โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.67-1.00 แบบสอบถามประกอบด้วย 3 ตอน&nbsp; ได้แก่ ตอนที่ 1 ลักษณะประชากรที่เป็นข้อมูลทั่วไป ตอนที่ 2 พฤติกรรมการออกกำลังกาย และตอนที่ 3 ปัญหาและความต้องการของการออกกำลังกาย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน&nbsp;ผลการวิจัย พบว่า 1) ลักษณะทางประชากร พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ร้อยละ 56.70 ศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ร้อยละ 32.80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.00-2.49 ร้อยละ 31.60 มีที่พักกับครอบครัวร้อยละ 70.30 มีรายได้ในแต่ละเดือนเพียงพอร้อยละ 73.40 ไม่มีโรคประจำตัวร้อยละ 86.70 มีความถึ่ในการออกกำลังกาย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ร้อยละ 48.80 ใช้ระยะเวลาออกกำลังกาย 15-30 นาที ร้อยละ 48.70 ที่ผ่านมาออกกำลังกายภายในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เป็นแบดมินตันร้อยละ 35.00 และสภาพแวดล้อมออกกำลังกายส่วนใหญ่ใช้สถานที่กลางแจ้งร้อยละ 45.60 2) ด้านพฤติกรรมการออกกำลังกาย พบว่าทัศนคติเกี่ยวกับพฤติกรรมการออกกำลังกายอยู่ในระดับมาก (=4.01, SD=1.68) และมีการแสดงออกในการออกกำลังกายอยู่ในระดับมาก (=3.77, SD=1.11)&nbsp; และ 3) ด้านปัญหาและความต้องการในการออกกำลังกาย พบว่าปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง &nbsp;(=3.09, SD=1.20) โดยเป็นปัญหาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง (=3.32, SD=1.03) ปัญหาเกี่ยวกับสถานที่และอุปกรณ์ (=3.29, SD=1.06) และปัญหาวัน-เวลาในการให้บริการ (=3.21, SD=0.99) ตามลำดับ พบความต้องการอยู่ในระดับมาก (=3.84, SD=0.96) โดยมีความต้องการเกี่ยวกับสถานที่และอุปกรณ์ (=3.95, SD=0.96) ความต้องการวัน-เวลาในการให้บริการ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;(=3.89, SD=0.89) ความต้องการบุคลากรที่เกี่ยวข้อง (=3.85, SD=0.88) ตามลำดับ</p> ภณิดา หยั่งถึง Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2992 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การออกแบบ และพัฒนาชุดสื่อเพื่อส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก อำเภอพบพระ จังหวัดตาก https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3087 <p>การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยว และพัฒนาชุดสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ส่งเสริม และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนเริ่มต้นที่การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตาก อำเภอพบพระ จังหวัดตาก นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ และออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยว และพัฒนาชุดสื่อประชาสัมพันธ์ โดยผู้วิจัยได้ศึกษาวิธีการ หลักการออกแบบระบบชุดสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ และดำเนินการพัฒนาชุดประชาสัมพันธ์ โดยนำองค์ความรู้ที่ได้มาวิเคราะห์และออกแบบตามหลักการให้สอดคล้องกับองค์ความรู้ จากนั้นผู้วิจัยได้จัดทำแบบประเมินความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 400 คน โดยผู้จัดเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายสามารถเก็บรวบรวม และนำมาวิเคราะห์ผลจากแบบสอบถามได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 387 คน คิดเป็นร้อยละ 97 ของแบบสอบถามทั้งหมดจำนวน 400 คน โดยพบว่าหลังจากที่ได้ทดลองใช้ระบบแล้วมีระดับพึงพอใจเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก</p> จักรพันธ์ วงศ์ฤกษ์ดี Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3087 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษา เรื่อง การใช้โปรแกรมPowerPoint เบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบมหามงคล https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3084 <p>การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษา เรื่อง การใช้โปรแกรม PowerPoint เบื้องต้น 2) หาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษา&nbsp; 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่&nbsp; 4 โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบมหามงคล จังหวัดนครปฐม จำนวน 40 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษา 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test dependent</p> <p><strong>&nbsp;</strong>ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาและด้านเทคนิค พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษาเท่ากับ 81.50/80.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้คือ 80/80 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับเกมการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (𝑥̅ = 4.60, S.D. = 0.52)</p> นพดล ผู้มีจรรยา Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3084 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด วิชาวิทยาการคำนวณ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศรัทธาสมุทร https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2553 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด วิชาวิทยาการคำนวณ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศรัทธาสมุทร 2) หาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด วิชาวิทยาการคำนวณ 3)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน&nbsp; ของนักเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค&nbsp; (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด วิชาวิทยาการคำนวณ&nbsp; สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 70&nbsp; 4) หาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด วิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 โรงเรียนศรัทธาสมุทร จำนวนทั้งสิ้น 30 คน คัดเลือกโดยใช้วิธีแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) บทเรียนออนไลน์ 2) แบบประเมินบทเรียนสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเนื้อหา 3) แบบประเมินบทเรียนสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค 4) แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test dependent</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด วิชาวิทยาการคำนวณ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 &nbsp;มีองค์ประกอบ ด้านเนื้อหาและด้านเทคนิค คุณภาพโดยรวมอยู่ระดับมากที่สุด ( &nbsp;= 4.68, S.D = 0.47) 2) ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์โดยใช้เทคนิค (Think Pair Share) การเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เท่ากับ73.33/71.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 70/70 3) ผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 และ 4) ผู้เรียนความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนออนไลน์ที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด ( &nbsp;=4.86, S.D. = 0.37)</p> จรินทร อุ่มไกร Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2553 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์ รองรับสถานการณ์โรคระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2958 <p>งานวิจัยเรื่องการพัฒนาระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์รองรับสถานการณ์โรคระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์รองรับสถานการณ์โรคระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19)&nbsp; 2.เพื่อทดสอบระบบระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์ และ 3.เพื่อประเมินความพึงพอใจของระบบที่พัฒนาขึ้น โดยประชากรที่ใช้เป็นนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาฝึกประสบการณ์วิชาชีพในภาคการศึกษาที่ 3 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 74 คน ซึ่งระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์พัฒนาขึ้นในรูปแบบเว็บแอพพลิเคชันประกอบด้วย ระบบบันทึกประวัตินักศึกษา ระบบนัดหมาย ระบบบันทึกการฝึกงาน ระบบการประเมิน ระบบส่งผลงาน รายงานที่เกี่ยวข้องและแบบฟอร์มต่างๆ สำหรับการฝึกงาน จากการประเมินคุณภาพของการพัฒนาระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์ จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน พบว่าอยู่ในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.22 ส่วนเบี่ยงเบนเท่ากับ 0.72&nbsp; และผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้งานประกอบด้วย นักศึกษา อาจารย์และพี่เลี้ยงในสถานประกอบการ ที่ทำการทดสอบการใช้งานระบบบริหารจัดการการฝึกงานแบบออนไลน์รองรับสถานการณ์โรคระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Covid-19) จากผู้ใช้งานระบบในภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.04 ส่วนเบี่ยงเบนเท่ากับ 0.78</p> สุพัชชา ทัพสัพ Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/2958 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การศึกษาศักยภาพของมะขามเทศพันธุ์เพชรโนนไทยในการผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3384 <p>บทคัดย่อ</p> <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพของมะขามเทศพันธุ์เพชรโนนไทย โดยใช้มะขามเทศแช่แข็งจากวิสาหกิจชุมชนมะขามเทศเพชรโนนไทยบ้านสันเทียะ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562 หมายเลขคำขอ 62100226 และทะเบียนเลขที่ สช 63100139 การศึกษาพบว่า เนื้อมะขามเทศมีปริมาณใยอาหารร้อยละ 1.12 และสารสกัดมะขามเทศที่ความเข้มข้น 300 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ก่อนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ โดยใช้วิธีวิเคราะห์ DPPH และ IC<sub>50</sub> พบว่ามีค่าเท่ากับ 75.09 ± 0.58 เปอร์เซ็นต์ และ 0.140 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการต้านการอักเสบที่ประเมินจากความสามารถในการยับยั้งการเสื่อมสภาพของโปรตีน โดยพบว่าสารสกัดมะขามเทศที่ความเข้มข้น 1 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ก่อนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน สามารถยับยั้งการเสื่อมสภาพของโปรตีนได้ร้อยละ 46.89 ± 0.47 ซึ่งใกล้เคียงกับสารมาตรฐาน acetylsalicylic acid แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้เป็นอย่างดี และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะขามเทศเพชรโนนไทยบ้านสันเทียะ ได้นำข้อมูลจากผลการวิจัยนี้ ผลิตเป็นน้ำไฟเบอร์มะขามเทศ ตรา มาทาโกะ (Matako Manila tamarind de Korat)</p> <p><strong>คำสำคัญ</strong><strong>: </strong>มะขามเทศเพชรโนนไทย; ใยอาหาร; ต้านอนุมูลอิสระ; ต้านการอักเสบ; เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ</p> เดือนเพ็ญ คำพวง Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3384 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700 การพัฒนาระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3105 <p>ปัจจุบันการจัดการเอกสารในหลายองค์กรมีการใช้ระบบกระดาษเป็นหลัก ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการสูญหายและความล่าช้าในการค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะอย่างในระบบสารบรรณซึ่งต้องมีประสานงาน การจัดเก็บและเรียกค้นเอกสาร เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในระบบงานสารบรรณ งานวิจัยนี้จึงวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์สำหรับคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ โดยมีการศึกษาระบบงานเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล และนำมาพัฒนาระบบให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาขึ้น มีความเหมาะสมและสามารถตอบสนองความต้องการของบุคลากรใน คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษได้เป็นอย่างดี โดยมีผลการประเมินประสิทธิภาพในการใช้งานระบบโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับมาก (&nbsp;= 4.35, S.D. = 0.56) และระดับความพึงพอใจของผู้ใช้งานต่อระบบโดยรวมอยู่ในระดับมาก (&nbsp;= 4.40, S.D. = 0.52)</p> ศุภชัย ทองสุข Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.สุวรรณภูมิ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph03.tci-thaijo.org/index.php/JSciTech/article/view/3105 Mon, 23 Dec 2024 00:00:00 +0700